จากกระดาษด้อยค่า สู่ดวงดาราบนพื้นดิน
ท่าแร่กับเทศการแห่ดาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและใหญ่ที่สุดในโลก
ทำไมต้องแห่ดาว?
แห่ดาวเมื่อใกล้ถึงวันสมโภชพระคริสตสมภพ หรือ “วันคริสต์มาส” ของทุกปี เราจะเห็นห้างสรรพสินค้าและร้านรวงต่างๆ ประดับตกแต่ง ต้นคริสต์มาสด้วยไฟหลากสีระยิบระยับ มีภาพชายแก่หนวดเครายาวสีขาวพุงพุ้ยในชุดสีแดงสดใสพร้อมถุงของขวัญบนล้อเลื่อน มีกวางลากจูง คลอด้วยบทเพลงคริสต์มาสในจังหวะสนุกๆ เพื่อดึงดูดผู้คนที่ผ่านไปมา ให้หันมาสนใจและจับจ่ายเลือกซื้อสินค้าในร้านรวงของตน บรรยากาศเช่นนี้มีให้เห็นทั่วไปตามเมืองใหญ่ทั่วโลกไม่เว้นแม้แต่ในประเทศไทย
แต่ในอีกมุมหนึ่งของหมู่บ้านคริสตชนในภาคอีสานของ ประเทศไทยดูจะต่างออกไป โดยเฉพาะในอัครสังฆมณฑลท่าแร่-หนองแสง ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 4 จังหวัดคือ สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์และมุกดาหาร จะมีบรรยากาศของความสมัครสมานกลมเกลียวแบบพี่น้อง ที่ร่วมแรงร่วมใจกันเตรียมฉลองคริสต์มาส ด้วยการทำดาวและถ้ำพระกุมาร ช่วยกันประดับตกแต่งวัดประจำหมู่บ้านให้สวยงาม รวมถึงบ้านเรือนของตน เพื่อเฉลิมฉลองการประสูติมาของพระเยซูเจ้า พวกเขาได้สานต่อความเชื่อศรัทธานี้ มามากกว่า 100 ปี จนกลายเป็นประเพณีในคืนวันที่ 24 ธันวาคม ของทุกปี
หลายคนที่ต้องการคำตอบความกระจ่างในเรื่องนี้ ประเพณีแห่ดาวในเทศกาลคริสต์มาสนี้ มีเพียงแห่งเดียวในโลก คือ ที่มิสซังโรมันคาทอลิกท่าแร่-หนองแสง เท่านั้น การแห่ดาว เป็นกิจกรรมในเทศกาลคริสต์มาส เพื่อระลึกเหตุการณ์ที่บรรดาโหราจารย์ได้ติดตาม ดาวประหลาดดวงหนึ่งซึ่งเป็นสัญลักษณ์ เพื่อไปพบสถานที่ประสูติของพระเยซูเจ้าที่แบธเลเฮมพร้อมทั้งได้ถวายเครื่องบรรณาการแก่พระกุมาร และถือกันว่าดวงดาวคือสัญลักษณ์แห่งการประสูติของพระเยซูเจ้า พระเจ้าของชาวคริสต์
คริสต์มาสท่าแร่ต่างจากที่อื่นอย่างไร ?
วันคริสต์มาส คือ การฉลองวันประสูติของพระเยซูผู้เป็นศาสดาสูงสุดของชาวคริสต์ทั่วโลก เป็นวันฉลองที่มีความสำคัญ และมีความหมายมากที่สุดวันหนึ่ง เพราะชาวคริสต์ถือว่า พระเยซูมิใช่เป็นแต่เพียงมนุษย์ธรรดาๆ ที่มาเกิดเหมือนเด็กทั่วไป แต่พระองค์เป็นบุตรของพระเจ้าผู้สูงสุด และมีพระธรรมชาติเป็นพระเจ้า และเป็นมนุษย์ในพระองค์เอง การบังเกิดของพระองค์ จึงเป็นเหตุการณ์พิเศษ ที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือนด้วย
หากจะพูดถึงความต่างของเทศการคริสต์มาสของท่าแร่กับที่อื่นแล้วเราสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่ามีความแตกต่างจากสังฆมณฑลอื่นๆในไทย เพราะสังมณฑลท่าแร่-หนองแสงเท่านั้นที่มีการจัดการแห่ดาวใหญ่นอกจากดาวมือถือแบบโบราณ จึงทำให้ม่าแร่โดดเด่นมากหากพูดถึงเทศการคริสต์มาสในประเทศไทย และยังเป็นหนึ่งเดียวในโลกอีกด้วยที่มีขบวนแห่ที่งดงามแบบนี้