เที่ยวอีสานและภาคอื่น

อนุสรณ์สถานแห่งความสามัคคี พระธาตุศรีสองรัก

พระธาตุศรีสองรัก

     พระธาตุศรีสองรัก ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำหมัน อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย สถาปัตยกรรมขององค์พระธาตุองค์นี้เป็นศิลปกรรมแบบล้านช้างก่ออิฐถือปูนองค์พระธาตุสูง 19.19 เมตร ฐานกว้างด้านละ 10.89 เมตร ฐานเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส ย่อมุมไม้สิบสอง องค์ระฆังทรง “บัวเหลี่ยม” คล้ายพระธาตุพนม พระธาตุหลวง(เวียงจันทน์) พระธาตุศรีโคตรบอง(แขวงคำม่วน) และอีกมากมายแถบลุ่มน้ำโขง พระธาตุศรีสองรักสร้างขึ้นถวายเป็นอุเทสิกเจดีย์ (หมายถึงเจดีย์สร้างขึ้นโดยเจตนาอุทิศให้พระศาสนา โดยไม่กำหนดว่าต้องเก็บรักษาสิ่งใด) แต่ก็มีหลายคนเชื่อว่ากษัตริย์ทั้งสองพระองค์น่าจะนำสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อาทิ พระพุทธรูป พระธรรมคัมภีร์บรรจุไว้ตามความเชื่อในศาสนาพุทธ

พระธาตุหลวงเวียงจันทน์

พระธาตุศรีสองรัก

        พระธาตุศรีสองรักสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช เพื่อเป็นสักขีพยานในการช่วยเหลือซึ่งกันและกันระหว่างกรุงศรีอยุธยา(สมัยพระมหาจักรพรรดิ) และกรุงศรีสัตนาคนหุต (ปัจจุบันคือ เวียงจันทน์สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว)

        กษัตริย์ทั้งสองพระองค์ทรงครองราชสมบัติ ตรงกับสมัยที่พม่าเรืองอำนาจ และมีการรุกรานดินแดนต่าง ๆ เพื่อขยายอำนาจ สมเด็จพระมหาจักรพรรดิและพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชจึงตกลงรวมกำลัง เพื่อต่อสู้กับพม่า จึงทรงกระทำสัตยาธิษฐานว่าจะไม่ล่วงล้ำดินแดนของกันและกัน และเพื่อเป็นที่ระลึกในการทำไมตรีต่อกัน จึงได้ร่วมกันสร้างพระธาตุศรีสองรักเพื่อเป็นสักขีพยาน ณ กึ่งกลางระหว่างแม่น้ำน่านและแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นรอยต่อของทั้งสองราชอาณาจักร ปัจจุบันพระธาตุศรีสองรักยังเปิดให้เข้ากราบนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของ อ.ด่านซ้าย จังหวัดเลย นั้นคือ พระธาตุศรีสองรัก ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ในปี พ.ศ. 2103 สมัยกรุงศรีอยุธยา ถือว่าเก่าแก่มากครับ เพื่อเป็นสักขีพยานในการช่วยเหลือกันระหว่างพระมหาจักรพรรดิแห่งกรุงศรีอยุธยา(ไทย) และพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชแห่งอาณาจักรล้านช้าง(ลาว) เนื่องจากยุคนั้นพม่าเรืองอำนาจและมีการรุกรานดินแดนต่างๆ เพื่อขยายอำนาจ กษัตริย์ทั้งสองพระองค์จึงเห็นว่าควรจับมือกันเพื่อความมั่นคง จึงได้กระทำสัตยาธิษฐานว่าจะไม่ล่วงล้ำดินแดนของกันและกัน พร้อมได้ร่วมกันสร้างเจดีย์ขึ้นถวายมีพระนามว่า“พระธาตุศรีสองรัก” ริมลำน้ำหมัน เป็นดังสักขีพยานแห่งสัจจะไมตรี

เมื่อเดินทางมาถึงพระธาตุศรีสองรักจะพบกับกับทางเดินทอดยาวไป เบื้องหน้ามีเสาสูงประมาณอกเรียงรายนำไปสู่บันได สูงขึ้นไปจะเห็นยอดเจดีย์พระธาตุศรีสองรักสีขาวสง่าที่ตั้งอยู่หลังมณฑปที่ประดิษฐานพระพุทธรูปนาคปรก สร้างด้วยศิลา และในส่วนขององค์พระพุทธรูปสันนิษฐานว่า สร้างด้วยทองสัมริด มีหน้าตักกว้าง 21 นิ้ว สูง 30 นิ้ว โดยหลวงพ่อไกรสีห์จะเปิดให้นมัสการในโอกาสสำคัญ ซึ่งในแต่ละปีจะมีการปิดทอง 1 ครั้ง โดยจะทำก่อนวันงานสมโภชและนมัสการพระธาตุศรีสองรัก 1 วัน

ทุกวันขึ้น 15 เดือน 6 ชาวอำเภอด่านซ้าย หรือ”ลูกผึ้งลูกเทียน” จะร่วมกันจัดงานสมโภชพระธาตุขึ้น โดยจะนำต้นผึ้ง มาถวายพระธาตุถือเป็นประเพณีอันศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดขึ้นประจำทุกปี(งานสมโภชพระธาตุศรีสองรัก) ที่จัดทุกๆปี ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ชาวอำเภอด่านซ้าย โดยชาวบ้านจะพร้อมใจกันนำ“ต้นผึ้ง” หรือ “ต้นดอกเผิ่ง” (ในภาษาอีสาน) ทำจากโครงไม้ไผ่เป็นทรงสามเหลี่ยมหรือทรงหอปราสาทขนาดกว้างราว 2 ฟุต สูง 2 ฟุตเศษ กรุรอบด้วยลวดลายงานแทงหยวกจากนั้นประดับด้วย “ดอกผึ้ง” ซึ่งทำจากแผ่นเทียนกลมๆ บางๆ ตากแดดแล้วจับเป็นกลีบ ตกแต่งเป็นต้นผึ้งมีดอกบานไม่รู้โรย หรือขมิ้นหั่นเล็กๆ ติดตรงกลางแทนเกสรดอกไม้ แล้วจึงนำมาบูชาถวายแด่องค์พระธาตุ ซึ่งแต่ละปีจะมีชาวด่านซ้ายและชาวเลยมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก ใครที่มาขอพรองค์พระธาตุแล้วบนด้วยต้นผึ้ง ก็มักจะสมหวัง

ผู้ที่จะมาสักการะพระธาตุศรีสองรักต้องสำรวจตนเองสักหน่อยครับ เค้าห้ามใส่เสื้อผ้า “สีแดง” หรือถือสิ่งของที่มีสีแดงเข้าไปบริเวณองค์พระธาตุ เพราะ “สีแดง” อาจเปรียบได้กับ “เลือด” ที่เป็นผลของการทำสงคราม ดังนั้น คนโบราณจึงมีการห้ามไม่ให้ผู้ที่สวมเสื้อผ้าสีแดง เข้าไปบริเวณองค์พระธาตุ จนเป็นธรรมเนียมปฏิบัติสืบมาจนถึงปัจจุบันด้วยเช่นกัน

แชร์ไปที่

Facebook
Twitter
Email

Similar Posts

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น